โยคะเป็นการเชื่อมโยงเราเข้าหากัน
“โยคะเป็นเหมือนการเชื่อมโยงเข้าหากัน เราพูดคุยกันในเรื่องของโยคะและเล่นด้วยกัน อาชีพครูสอนโยคะจะไม่ค่อยมีวันหยุด เราก็จะพาเขาไปนั่งดูเราสอน เขาก็จะค่อยๆ ซึมซับ โยคะก็จะทำให้เราไม่ห่างกัน แต่ทำให้เราเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น สำหรับน้องโมเน่ต์เองยังเล็กมาก สมาธิไม่ค่อยมี เราก็ค่อยๆ ปลูกฝังเรื่องโยคะไปเรื่อยๆ ไม่ยัดเยียด เป็นการหากิจกรรมให้เขาทำ ไม่ให้ไปติดอยู่กับมือถือ ในเรื่องของสุขภาพ โยคะทำให้อาการภูมิแพ้ของน้องดีขึ้นมาก ทุกวันนี้น้องโมเน่ต์มีไปสอนโยคะเพื่อนด้วยนะ เขารู้สึกภูมิใจที่เขาทำได้”
ธนินท์ธร ภักดี (ครูต่าย) กับ น้องโมเน่ต์

โยคะให้การเปลี่ยนแปลงของแม่และลูก
“ครูเองเล่นโยคะมา 20 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นมีปัญหาสุขภาพมาก เป็นไมเกรน กินยาทุกวันมาเป็นสิบปี เป็นโรคความดัน ไขมันสูงมาก ตอนนี้โรคภัยไข้เจ็บหายหมด แข็งแรงดีมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดนอกจากสุขภาพ คือเราเปลี่ยนเป็นคนใจเย็นขึ้น ใครว่าอะไรไม่ค่อยโกรธ เฉยๆ มีธรรมะในใจมากขึ้น ส่วนครูหรั่งเองก็เป็นเหมือนกัน ใจเย็นขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่รีบเร่ง เขาเปลี่ยนแปลงไปมาก อีกส่วนหนึ่งสำหรับคนเป็นแม่ ก็ถือว่าแม่ได้ทำให้ลูกมีอาชีพแล้ว หมดห่วง”
ครูปรานอม เรืองขจร กับ ครูจุมพล ประเทืองสุข (ครูหรั่ง)

โยคะคือการมอบความรัก
“คุณแม่กับน้องออมทรัพย์เรียกว่าได้ปฏิบัติโยคะกันตั้งแต่ยังไม่เกิดกันเลยค่ะ เพราะขณะที่ตั้งท้องก็ยังคงสอนโยคะ กระทั่งท้องโต 5 เดือนจึงหยุดสอนและปฏิบัติโยคะเองมาตลอดจนกระทั่งถึงวันคลอดกันเลยค่ะ เป็นท้องแรก คลอดเองตามธรรมชาติไม่ได้ผ่าตัดคลอด เนื่องจากการปฏิบัติโยคะได้เน้นเรื่องการฝึกปราณ (ฝึกลมหายใจ) ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติอาสนะด้วย ทำให้เด็กในครรภ์ได้รับออกซิเจนเยอะ ตอนน้องเกิดมา ก็ร้องอ้อแอ้เสียงดังกันตั้งแต่วินาทีแรกโดยไม่ต้องปั๊มกันเลยค่ะ คุณหมอที่ทำคลอดยังชมว่าเสียงดีปอดแข็งแรงดีมาก555 เราเป็นครูโยคะมาหลายปี รู้ดีอยู่แล้วว่าโยคะมีประโยชน์มากมาย จึงอยากจะมอบสิ่งนี้ให้ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต เคยจะสอนจริงจังให้กับเขาโดยคิดว่าจะปลูกฝังตั้งแต่เด็ก แต่ดูเขาจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ บ่นเหนื่อยบ้างเบื่อบ้างตามประสาเด็ก เราก็เลยต้องมาคิดกันใหม่ว่าเรากำลังยัดเยียดให้ลูกเกินไปหรือเปล่า ระยะหลังก็เลยไม่บังคับ แล้วแต่อารมณ์ แต่ดีที่เราเป็นครูโยคะทั้งคู่ เขาได้เห็นเราทำเราสอนทุกวัน เขาก็แอบทำบ้างเล่นบ้างตามประสา ทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไม่โดนบังคับ สุขภาพก็แข็งแรงตลอด ไม่มีปัญหาโรคหอบหืด เรื่องการเรียนก็มีพัฒนาการที่ดี ผลสอบก็ได้คะแนนสูงของห้องตลอด และยังได้พัฒนาด้านจิตใจ เคยสอบวัด EQ ผลออกมาก็ดี ตอนนี้เขาแปดขวบแล้วเริ่มจะเป็นหนุ่มน้อย ก็เริ่มมีเรื่องราวให้สนใจมากขึ้นทั้งกีฬา ศิลปะ และการเรียนอื่นๆ แต่ก็คิดว่าในส่วนของโยคะ มาถึงจุดนี้ตัวเราเองก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ที่เราได้พบเจอกับศาสตร์นี้ ก็คงจะค่อยๆปลูกฝังเขาไปทีละเล็กละน้อย เพื่อเป็นหลักประกันในการมีสุขภาพกายและจิตที่ดี ทำให้มีทัศนคติในการมองโลกที่ดีในอนาคต ซึ่งโยคะค่อนข้างมีให้ครบ ณ ตอนนี้เรียกได้ว่า "เรารักใคร...เราก็จะมอบโยคะให้กับเขา"
ณปภัช ธวัชวีระกุล (ครูแอน) กับ น้องออมทรัพย์

โยคะคือการเล่นและการเรียนรู้
การเล่นโยคะกับลูก เหมือนเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์และความรู้สึกของลูก ทำให้ลูกกล้าคิดแสดงออก ทำให้เค้าได้จินตนาการ และมีโอกาสได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูกมากขึ้น สำหรับเด็กๆ โยคะคือ “การเล่น” และ “การเรียนรู้” (Play and learn)
การเป็นครูโยคะ และเป็นแม่ของลูก จึงได้มีโอกาสเล่นโยคะกับลูกตั้งแต่ลูกเล็กๆ เช่น เล่านิทาน ทำท่าโยคะเลียนแบบสัตว์ ลูกสนุกกับการเล่น และมีความสุขมาก บางครั้งลูกก็นำท่าโยคะต่างๆ ไปสอนให้กับเพื่อนๆ จนเดี๋ยวนี้ลูกบอกว่า “โตขึ้นหนูอยากเป็นครูโยคะเหมือนแม่”
การฝึกโยคะไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่น เพราะโยคะค่อนข้างจะเน้นในเรื่องของ การหายใจ สติ สมาธิ สิ่งที่เค้าได้ติดตัวไปจนโตคือ บุคลิกภาพที่ดี ความมั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก มีน้ำใจ ชอบแบ่งปัน และทักษะการคิดที่เป็นระบบ การเรียนต่างๆ ของลูกก็จะดีขึ้นไปด้วย
นอกเหนือจากนี้ โยคะช่วยให้เด็กๆ มีสุขภาพแข็งแรง มีความยืดหยุ่นของข้อต่อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต่างๆ ซึ่งจะทำให้มีพัฒนาการทางการเคลื่อนไหวที่ดี และรักในการเล่นกีฬา
ธิญาดา คอนเควสท์ (ครูหนิง) ผู้บริหาร Enjoy yoga studio (Thailand) กับ น้องนาตาลี คอนเควสท์

คุณแม่นักบริหาร กับ การมอบโยคะให้เป็นของขวัญในการสร้างอนาคตของลูก
คุณแอม ผู้บริหาร MakeFriends Yoga Studio ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานด้าน Advertising & Marketing กว่า 20 ปี และเป็น Single Mom ดูแลลูกสาวคนเดียวมา 10 ปีแล้ว สำหรับคุณแอม ความสุขคือการได้มอบโยคะให้เป็นของขวัญในการสร้างอนาคตของลูก
“น้องโมเน่ต์เล่นโยคะมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ชอบและฝึกฝนมาตลอด นอกจากนี้ยังเรียนเต้นไปด้วยพร้อมกันๆ แต่พออายุ 12 ปี น้องเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น น้องค้นพบว่าตัวเองชอบการเต้นมากกว่าโยคะ โยคะหรือการเต้นมีทักษะคล้ายกัน โดยน้องนำความสามารถด้านโยคะไปผสมผสานกับการเต้นด้วย ทำให้การเต้นเพอร์เฟ็คขึ้น”
“พี่ผลักดันให้เขาไปแข่งขัน Asian Yoga Sports Championship และเขาได้รับรางวัลอันดับ 5 มันทำให้พี่เห็นถึงความเพียรพยายามและเอาจริงเอาจังของเขา และอยากจะส่งเสริมมากขึ้น ตอนนี้น้องเรียนโยคะประเภทที่เน้นการ Stretching เพื่อไปช่วยในเรื่องของการเต้นบัลเล่ต์ หรือ Comtemporary Dance