Seeing into Being…จากการเห็นสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อม

ในช่วงหลังนี้เราได้ยินถึงหลักสูตรการอบรมมากมาย หนังสือตำรานานาชนิด ที่พูดเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง การเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ การระเบิดศักยภาพภายในเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด ฯลฯ คำถามคือ...เพียงด้วยสิ่งเหล่านี้เท่านั้นหรือที่เราจะสามารถบรรลุถึงความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมได้? มนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน? ตัวเราเองจะสามารถเป็นสิ่งนั้นได้จริงๆ หรือ? แล้วเราจะต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างไรล่ะ? มีอะไรบ้างที่เราต้องทำ?....หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังคิดเช่นนี้ และมองหาวิธีในการเปลี่ยนแปลงตนเอง...แสดงว่าบทความนี้เขียนขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ      

โดยทั่วไปการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์จะทำกันอยู่ใน 4 ระดับ

1. ระดับพฤติกรรม (Behavioral) เป็นการเปลี่ยนทางภายนอก เช่น เปลี่ยนนิสัยบางอย่าง หรือพัฒนาบุคลิกภาพ มารยาท วิธีการพูด ซึ่งเป็นระดับที่ผิวเผินที่สุด

2. ระดับสติปัญญา (Intellectual) ระดับนี้นำเข้าไปสู่การเปลี่ยนภายในมากขึ้นอีกหน่อยจากการอาศัยข้อมูล การศึกษาเรียนรู้ เช่น การอบรมต่างๆ การอ่านหนังสือ อาจทำให้ฉลาดขึ้น เก่งขึ้น มีความเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น

3. ระดับอารมณ์ (Emotional) ระดับนี้เข้าไปสู่ความพยายามที่จะจัดการกับภายในตนเองมากขึ้น เช่น เรียนรู้ที่จัดการกับอารมณ์โกรธ ความเครียด ความวิตกกังวล เป็นต้น

4. ระดับจิตวิญญาณ (Spiritual) เป็นการเปลี่ยนจิตสำนึกภายใน ซึ่งเป็นระดับที่ลึกล้ำที่สุดและส่งผลถาวร เพราะเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งไม่หลงเหลือของเก่าอีกเลย หรือที่เราเรียกว่า Metamorphosis เหมือนกระบวนของหนอนที่กำลังเปลี่ยนเป็นผีเสื้อ เริ่มจากหนอนเข้าไปอยู่ในรังไหมเป็นเวลาที่นานพอ แล้วอาศัยเซลล์จินตนาการภายใน สร้างวิสัยทัศน์และความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่ามันกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ และแล้วกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในก็เกิดขึ้นอย่างช้าๆ จนในที่สุดหนอนก็กลายเป็นผีเสื้อ โดยไม่กลับไปเป็นหนอนอีก

นั่นหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างสิ้นเชิง ต้องเกิดจากการเปลี่ยนจิตสำนึก เราจำเป็นต้องสร้างจิตสำนึกของมนุษย์ที่สูงส่งขึ้นมาภายใน โดยที่เราต้องรู้ก่อนว่ามนุษย์ที่สูงส่งสมบูรณ์พร้อมนั้นเป็นอย่างไร พวกเขามีวิธีคิด และพฤติกรรมความเป็นอยู่อย่างไร ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ต้องกระจ่างชัด เพื่อให้เราสามารถสร้างภาพหรือวิสัยทัศน์ (Vision) ที่ชัดเจนขึ้นมาในจิตใจได้ หลังจากนั้นขอให้เรามุ่งมั่นมากพอที่จะปักใจเชื่ออย่างไม่สั่นคลอนว่าเราจะเปลี่ยนแปลงเป็นเช่นนั้นได้จริง แล้วเริ่มทำการทดลองจนกว่าจะเกิดผลสำเร็จในที่สุด

การเปลี่ยนจิตสำนึก มีการกล่าวถึงกันมากขึ้นในช่วงหลายสิบปีหลังมานี้ ทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักสังคมมานุษยวิทยา ต่างได้ทำการศึกษาทดลองเกี่ยวกับจิตสำนึกของมนุษย์ (Consciousness Research) และให้ข้อสรุปที่ตรงกันว่ามนุษย์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามรูปแบบของความคิดหรือความเชื่อเกี่ยวกับตนเอง ที่น่ามหัศจรรย์กว่านั้นคือ เรื่องเหล่านี้ได้มีการอ้างอิงไว้แล้วในศาสตร์โยคะโบราณของบารัตที่มีมายาวนานถึง 5,000 ปี ซึ่งเปิดเผยถึงความลับนี้ว่า เราสามารถเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดา ให้กลายเป็นมนุษย์ผู้มีอารยธรรมที่สูงส่งเช่น “เทพ” ได้ด้วยพลังโยคะ

พลังโยคะเป็นพลังที่เราได้รับมาจากการเชื่อมโยงกับสิ่งสูงสุด (Supreme Being) อันเป็นแหล่งของพลังงานชีวิตที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์และบริสุทธิ์ที่สุด ดังนั้นเมื่อเราเชื่อมโยงกับ Supreme Being เราก็จะกลายเป็น Divine Being หรือมนุษย์ที่สูงส่ง อันมีสติปัญญาและการทำกรรมที่สูงส่ง ไม่ใช่แค่ Human Being แบบธรรมดาในปัจจุบัน ซึ่งนั่นก็คือสภาพธรรมชาติดั้งเดิมแท้ของจิตวิญญาณมนุษย์ ที่มีความบริสุทธิ์สมบูรณ์ มีความดีงาม สูงส่ง มีศีลธรรมจรรยา ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง เต็มไปด้วยทุกคุณธรรม และมีศิลปะการใช้ชีวิต 16 องศาสมบูรณ์เต็ม ทั้งหมดนี้คือเป้าหมายหลักของการศึกษาราชาโยคะ

ในด้านหนึ่งนักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามไปให้ถึงขีดสุดของการเอาชนะวัตถุธาตุด้วยพลังหรืออำนาจทางวิทยาศาตร์ (Power of Science) แต่ในอีกด้าน มนุษย์จำนวนหนึ่งกำลังเพียรพยายามให้กลับมาเป็นนายเหนือตนเอง เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อม ด้วยพลังอำนาจทางจิตวิญญาณหรือพลังของความเงียบสงบ (Power of Silence) โดยการเชื่อมโยงจดจ่อจิตใจกับสิ่งสูงสุด ด้วยมนตรา “มานมานะบาฟ” ที่ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์กีตะ อันหมายถึง “จงกลับมาจดจ่อจิตใจที่พ่อผู้เดียว แล้วลูกจะกลับมาบริสุทธิ์” สาระสำคัญของคำนี้ยังคงปลุกเรียกผู้ที่เคยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อม ให้กลับมาเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อกลายเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง

เรื่องโดย : Om Shanti

ขอบคุณข้อมูลจาก บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ http://www.bkthai.com/bk/index.php

latest articles

เข้าสู่ระบบ Asiawellness.com