หากลองทบทวนช่วงชีวิตที่ผ่านมา คุณคิดว่าอะไรคือผลงานการสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ บางคนอาจตอบว่า “ภาพวาดที่ใครๆเห็นก็ต้องเอ่ยปากชมฉัน” “ไอเดียการออกแบบสุดเจ๋งของฉันที่ชนะการประกวดระดับโลก” “การเป็นครูสอนโยคะที่มีนักเรียนคุณภาพ” ไม่ว่าคุณจะตอบอย่างไร ดูเหมือนว่าเราทุกคนกำลังนำผลลัพธ์ของการสร้างสรรค์ ประเมินออกมาชิ้นงาน หรือเป็นสิ่งจับต้อง-ชี้วัดได้ ที่แสดงถึงความสามารถและสร้างความพึงพอใจให้กับตัวเอง แน่นอนที่การสร้างสรรค์คือศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ผลงานการสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กลับไม่ใช่เพียงบางสิ่งที่จับต้องได้ แล้วมันคืออะไร....สิ่งนั้นคือ การสร้างความคิดเชิงบวก…คุณเคยสัมผัสถึงความคิดที่สวยงามในจิตใจตนเองหรือไม่ มันเป็นช่วงเวลาที่คุณรู้สึกว่าหัวใจของคุณเปล่งประกายความงดงามอย่างที่สุด เต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา และความดีงามจากภายใน...สภาพที่หัวใจของคุณเอ่อล้นไปด้วยความสุขเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าคุณรู้มีสำนึกรู้ที่ถูกต้องของการเป็นผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่

“ความคิดเป็นสิ่งสร้างของเรา และ เราคือผู้สร้าง” เมื่อเราไม่ได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งนี้ เราจึงไม่ได้ใส่ต่อผลลัพธ์ของความคิดที่เราสร้างขึ้น ทั้งที่ความคิดก่อเกิดสายตาและทัศนคติ แสดงออกมาทางคำพูดและการกระทำ เมื่อกระทำบ่อยๆก็จะกลายเป็นนิสัย และปรากฏเป็นรอยกรรมในที่สุด คุณจะเห็นว่าเพียงแค่หนึ่งความคิดสามารถกำหนดชีวิตคุณได้อย่างไร คนเราจึงมีชีวิตในแบบที่เราสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในสังคมสิ่งแวดล้อมแบบใด การพบปะหรือมีสายใยสัมพันธ์กับผู้คนประเภทไหน หรือมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร นี่ล้วนเรียกว่ากฎแห่งการกระทำใช่หรือไม่ ดังนั้นถ้าเราเป็นผู้สร้าง เป็นนายของความคิด นั่นหมายถึงเราย่อมมีสิทธิ์ มีอำนาจเต็มต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้อื่นด้วยเช่นกันใช่ไหม

ผู้สร้าง จะใส่ใจเสมอต่อสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขารู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมเสมอในการปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น เขาจะต้องรู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อให้สิ่งสร้างมีคุณภาพที่สุด และมีคุณค่าควรแก่การ “ให้” กับผู้อื่นโดยปรารถนาถึงผลลัพธ์ในเชิงบวก ผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่จะคิดเฉพาะในสิ่งที่จะทำเท่านั้น และทำได้อย่างที่คิด  

สาระสำคัญของโยคะทางจิตคือการกลับไปเชื่อมโยงกับตัวตนภายใน จิตวิญญาณ อันเป็นตัวของความสงบ ความสุข ความเบิกบาน ความรัก เป็นแสงของคุณธรรมความดีงามและความบริสุทธิ์ นี่เป็นสภาพธรรมชาติดั้งเดิมของดวงวิญญาณมนุษย์ทั้งหมด และเมื่อเราตระหนักรู้ว่า “ฉันที่แท้จริงเป็นใคร” ขุมทรัพย์ของพลังที่ดีงามภายใน(พลังเชิงบวก)ก็พร้อมจะถูกเปิดขึ้นมา ให้เราสามารถหยิบมาสร้างสรรค์เพื่อมวลมนุษย์

ดังนั้นสำนึกรู้เดียวที่ผู้สร้างควรใส่ใจก็คือ “ฉันคือดวงวิญญาณ ฉันเป็นนายเหนือความคิดของตนเอง ฉันเป็นแสงแห่งคุณธรรมความดีงามทั้งหมด ฉันเป็นรูปธรรมของความบริสุทธิ์” ด้วยการสร้างความคิดและเข้าไปสู่ความรู้สึกของการเป็นเช่นนี้ คุณจะมีประสบการณ์ถึงพลังบวกไหลรินอยู่ภายใน และเมื่อนั้นคุณก็จะสามารถสร้างสรรค์คำพูดและการกระทำที่ปฏิสัมพันธ์อย่างอ่อนโยน ปรารถนาดี แต่เต็มไปด้วยพลังได้

การคิดบวก จึงจำเป็นต้องเริ่มจากตนเองก่อน เราต้องเห็นและศรัทธาว่าตนเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดีงาม และเคารพผู้อื่นบนฐานของการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดีงาม มีคุณค่า มีคุณธรรม เช่นเดียวกันกับเรา นี่เรียกว่าสายตาและทัศนคติของความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ สภาวะที่เป็นบวกจึงเกิดขึ้น เมื่อเราคงเคารพตนเองและเคารพผู้อื่นจากหัวใจ เราจะพัฒนานิสัยในการมองทุกคน ทุกสิ่งอย่างเข้าใจตามความเป็นจริงโดยไม่มีอคติ เราจะยอมรับว่าทุกคนหรือทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉันหรือคนรอบตัวฉัน มันดีอย่างที่มันควรจะเป็นแล้ว มันทำให้ฉันได้เติบโตเรียนรู้ มันให้คุณประโยชน์ต่อฉันจริงๆ แม้บางสิ่งที่ดูเหมือนจะเลวร้ายและรุนแรงที่สุด คุณก็ยังสามารถมองเห็นความงามในสิ่งนั้นได้ การที่เรายังคงรักษาความเป็นบวกต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และสถานการณ์อื่นๆ ไว้ได้ด้วยปัญญา นี่เรียกว่า “พลังการสร้างสรรค์อันแท้จริงของผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่”

โอม ชานติ

ขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิ บราห์มา กุมารี ราชาโยคะ

เรียนความรู้ทางจิตเพื่อการเปลี่ยนแปลงตนเอง ฟรี! (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นปัญญา)

·       การคิดเชิงบวก (Positive Thinking)

·       การจัดการกับความโกรธ (Anger Management)